ราคาต่อภาษีรถยนต์น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้า ปี 2566 คิดอย่างไร ?

ค่าใช้จ่ายอีกอย่างสำหรับคนมีรถยนต์นั่นก็คือการเสียภาษีรถยนต์ โดยทางขนส่งทางบกจะมีเกณฑ์ในการเรียกเก็บภาษีในราคาต่างกันไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดซีซีและปีของรถยนต์ โดยราคาต่อภาษีรถยนต์ในปี 2566 จะมีวิธีคิดอย่างไร ลองทำความเข้าใจตามรายละเอียดดังนี้

ราคาต่อภาษีรถยนต์น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้า ปี 2566

1. อัตราค่าต่อภาษีรถยนต์ ปี 2566 : (ทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือดำ)

สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง เช่น รถเก๋ง, รถ suv(5 ที่นั่ง), รถกระบะ วิธีการคำนวณภาษีรถจะใช้เกณฑ์คือขนาดของเครื่องยนต์ซีซี (cc) และมีอัตราภาษีดังนี้

  • เครื่องยนต์ขนาด 1-600 ซีซี.(cc) – คิดอัตราภาษี ซีซี.(cc)  ละ 50 สตางค์
  • เครื่องยนต์ขนาด 601-1,800 ซีซี.(cc)  – คิดอัตราภาษี ซีซี.(cc)  ละ 1.50 บาท 
  • เครื่องยนต์ขนาด 1,801 ซีซี.(cc)  ขึ้นไป – คิดอัตราภาษี ซีซี. (cc) ละ 4 บาท

กรณีหากรถยนต์มีอายุการใช้งานมาหลายปีทางกรมขนส่งจะ มีอัตราส่วนลดในการต่อภาษีรถยนต์ ดังนี้

  • อายุการรถยนต์เกิน 6 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 10%
  • อายุการรถยนต์เกิน 7 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 20%
  • อายุการรถยนต์เกิน 8 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 30%
  • อายุการรถยนต์เกิน 9 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 40%
  • อายุการรถยนต์เกิน 10 ปีขึ้นไป รับส่วนลดค่าภาษี 50%

2. อัตราค่าภาษีรถยนต์ ปี 2566: (ทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือเขียว)

รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง เช่น รถเก๋ง, รถ suv(5 ที่นั่ง), รถกระบะ สำหรับวิธีการคำนวณภาษีรถจะใช้เกณฑ์คือขนาดของเครื่องยนต์ซีซี (cc) เช่นกัน โดยมีอัตราภาษีดังนี้

  • น้ำหนักรถ 50 – 750 กิโลกรัม – อัตราภาษี 450 บาท
  • น้ำหนักรถ 751 –1,000 กิโลกรัม – อัตราภาษี 600 บาท
  • น้ำหนักรถ 1,001 – 1,250 กิโลกรัม – อัตราภาษี 750 บาท
  • น้ำหนักรถ 1,251 – 1,500 กิโลกรัม – อัตราภาษี 900 บาท
  • น้ำหนักรถ 1,501 – 1,750 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,050 บาท
  • น้ำหนักรถ 1,751 – 2,000 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,350 บาท
  • น้ำหนักรถ 2,001 – 2,500 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,650 บาท

3. อัตราค่าต่อภาษีรถยนต์ ปี2566 : (ทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือสีน้ำเงิน)

ประเภทรถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง ที่เป็นทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือสีน้ำเงิน วิธีการคำนวณภาษีจะใช้น้ำหนักของรถยนต์เป็นตัวคำนวณ ดังนี้

  • น้ำหนักรถไม่เกิน 1800 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,300 บาท
  • น้ำหนักรถเกิน 1800 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,600 บาท

4. คํานวณอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้า ปี 2566

นอกจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแล้วตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถที่ขายดีมากในประเทศไทย และเพื่อนๆ อยากรู้ไหมว่าอัตราคำนวณภาษีรถยนต์ไฟฟ้าคิดอย่างไร ซึ่ง พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ได้มีการกำหนดให้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเสียภาษีตามน้ำหนักของตัวรถ (รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน) โดยอัตราการคิดจะมีดังนี้

น้ำหนักรถ 500 กิโลกรัม – เสียภาษี 150 บาท

น้ำหนักรถ 501-750 กิโลกรัม – เสียภาษี 300 บาท

น้ำหนักรถ 751-1,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 450 บาท

น้ำหนักรถ 1,001-1,250 กิโลกรัม – เสียภาษี 800 บาท

น้ำหนักรถ 1,251-1,500 กิโลกรัม – เสียภาษี 1,000 บาท

น้ำหนักรถ 1,501-1,750 กิโลกรัม – เสียภาษี 1,300 บาท

น้ำหนักรถ 1,751-2,000 กิโลกรัม – เสียภาษี1,600 บาท

น้ำหนักรถ 2,001-2,500 กิโลกรัม – เสียภาษี 1,900 บาท

น้ำหนักรถ 2,501-3,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 2,200 บาท

น้ำหนักรถ 3,001-3,500 กิโลกรัม – เสียภาษี 2,400 บาท

น้ำหนักรถ 3,501-4,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 2,600 บาท

น้ำหนักรถ 4,001-4,500 กิโลกรัม – เสียภาษี 2,800 บาท

น้ำหนักรถ 4,501-5,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 3,000 บาท

น้ำหนักรถ 5,001-6,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 3,200 บาท

น้ำหนักรถ 6,001-7,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 3,400 บาท

น้ำหนักรถ 7,001 กิโลกรัมขึ้นไป – เสียภาษี 3,600 บาท

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลราคาต่อภาษีรถยนต์น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้า ปี 2566 ส่วนเอกสารต่อทะเบียนรถยนต์ใช้เอกสารอะไรและจ่ายได้ที่ไหน? คลิกอ่านต่อได้…

สำหรับเพื่อนๆ ที่จะปรึกษาเรื่องการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองสามารถพูดคุยสอบถามในไลน์ด้านล่างได้นะครับ