
ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท แต่ละประเภทต่างกันยังไง?
สำหรับการคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์นั้นจะมีอยู่ 5 ประเภท โดยแบ่งตามความคุ้มครองของประกันตามเอกสารกรมธรรม์ ซึ่งได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 (ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1), ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 (ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2), ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 (ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3), ประกันภัยรถยนต์ประเภท 4 (ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+) และประกันภัยรถยนต์ประเภท 5 (ประกันภัยชั้น 3+)
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
ยอดนิยมที่หลาย ๆ คน ยอมจ่ายเบี้ยในราคาสูงต่อปี นั่นก็เป็นเพราะว่า ประกันภัยประเภทนี้ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมสำหรับยานพาหนะของทั้งสองฝ่าย หากผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด โดยความคุ้มครองคร่าวๆ ดังนี้ ความบาดเจ็บ ความเสียหายต่อตัวรถ การถูกโจรกรรม ความเสียหายจากธรรมชาติเช่นไฟไหม้ น้ำท่วม รวมถึงค่าใช้จ่ายในการลากจูงรถอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นประกันที่ครอบคลุมมากที่สุด
ข้อดี ให้การคุ้มครองมากที่สุด (ทุกกรณี) รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของเราและทรัพย์สิน ชีวิตและร่างกายของคู่กรณี (หากเราเป็นฝ่ายผิด) รวมไปถึงกรณีรถยนต์สูญหายหรือไฟไหม้ อีกทั้งยังครอบคลุมค่าเสียหายของตัวรถยนต์ที่เกิดจากอุบัติเหตุทุกรูปแบบด้วย
ข้อเสีย ราคาเบี้ยจ่ายต่อปีสูง
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
ให้ความคุ้มครองแทบจะไม่ต่างกับประกันรถยนต์ ชั้น 1 ซึ่งใครที่มองหาประกันเพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด เพื่อใช้สำหรับการคุ้มครองในกรณีที่ต้องเคลมหนัก ๆ แต่จะต้องเป็นแบบที่มีคู่กรณีที่เป็นรถเท่านั้น ซึ่งไม่เหมือนกับประกันชั้น 1 ที่คุ้มครองทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี ใครที่มีประวัติขับรถที่ดี และเสี่ยงต่อการเจออุบัติเหตุบนท้องถนน ประกันชั้น 2+ เหมาะแน่นอนค่ะ
ข้อดี รับผิดชอบทุกอย่างเหมือนประกันชั้น 1 แต่จ่ายเบี้ยต่อปีถูกกว่า บวกรับผิดชอบกับรถยนต์ของเรากรณีชนกับยานพาหนะทางบก (ชนกับอย่างอื่นไม่ได้) เช่น ชนต้นไม้ ชนข้างทาง รถเข็นผัก และอื่น ๆ ที่ไม่ใช้พาหนะบนท้องถนน
ข้อเสีย ไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี (หากว่าเป็นกรณีที่ชนแล้วหนี จะต้องแนบหลักฐานเพิ่มเติมจึงจะเคลมได้)
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2
นั้นคุ้มครอง ชีวิตร่างกาย การบาดเจ็บและทรัพย์สินเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น ไม่มีการคุ้มครองสำหรับผู้เอาประกันหากรถเกิดเฉี่ยวชน พลิกคว่ำ เกิดอุบัติเหตุ เมื่อผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิด รวมถึงให้ความคุ้มครองความสูญหายและเหตุไฟไหม้ของตัวรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ขับเป็นแล้วในระดับหนึ่ง แต่ต้องจอดรถในที่เปลี่ยวบ่อยๆ
ข้อดี คุ้มครองรถเรื่องรถหาย,ไฟไหม้,ถูกชิงทรัพย์,ถูกปล้นทรัพย์,ถูกยักยอกทรัพย์
ข้อเสีย ให้การคุ้มครอง ชีวิตร่างกาย การบาดเจ็บและทรัพย์สินเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองรถชนรถ หรือชนสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถ หรือไม่มีคู่กรณี
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
ให้ความคุ้มครองความเสียหายของรถเรา ในกรณีอุบัติเหตุรถชนรถเท่านั้น และไม่คุ้มครองค่าความเสียหายในกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้ น้ำท่วมและถูกโจรกรรมหรือสูญหาย ซึ่งประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ จะเหมาะกับรถยนต์ทั่วไปที่ไม่ค่อยได้ใช้งานหรือรถที่มีอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป
ข้อดี ราคาเบี้ยถูกและให้รับความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น
ข้อเสีย รับผิดชอบเฉพาะของคู่กรณี ในกรณีฝั่งเราเป็นฝ่ายผิด แต่ไม่รับผิดชอบความเสียหายของรถยนต์ รวมไปถึงไม่คุ้มครองรถยนต์สูญหายและไฟไหม้
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3
เป็นประเภทประกันที่มีราคาเบี้ยประกันที่ถูกที่สุดรองจากประกันชั้น 4 โดยให้ความคุ้มครองเฉพาะชีวิตร่างกาย และทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น เมื่อผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิด โดยมีการคุ้มครองไม่เกินวงเงินที่ระบุไว้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายได้สำหรับผู้บาดเจ็บ ค่าใช้จ่ายในการสู้คดีและค่าทนายความจนกว่าคดีจะถึงที่สุด แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะไม่เกินวงเงินที่ได้ตกลงทำสัญญากับบริษัทประกันภัยรถยนต์นั้นๆ
ข้อดี คุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณี คือการประกันภัยความรับผิดชอบต่อคู่กรณีเมื่อเราขับรถไปชนกับรถคันอื่น รถคู่กรณีได้รับความเสียหายบริษัทประกันจะทำการชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามจริงแทนเจ้าของรถ เช่น รับผิดชอบค่าซ่อมรถเฉพาะรถคู่กรณีเท่านั้น
ข้อเสีย ไม่มีการคุ้มครอง เจ้าของรถ ในทุกกรณี ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุลักษณะใดๆก็ตาม ทั้งฝ่ายผิดและฝ่ายถูก