เกียร์ CVT VS AT ต่างกันอย่างไร ?

เกียร์ออโต้ มีอะไรบ้าง

1. ระบบเกียร์ออโต้ แบบเดิม

ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบดั้งเดิมหรือ ระบบเกียร์ออโต้แบบ คอนเวอร์เตอร์ คือ ระบบที่ใช้คอนเวอร์เตอร์และใช้น้ำมันในการส่งถ่ายกำลัง โดยระบบนี้จะมีใช้กำลังจากเครื่องยนต์มากกว่าระบบเกียร์ธรรมดา ใครที่นิยมความแรงและขับได้เร้าใจ อาจจะไม่เหมาะกับเกียร์ประเภทนี้ แต่ในปัจจุบันระบบเกียร์คอนเวอร์เตอร์ได้มีการพัฒนามากขึ้นจึงไม่ค่อยกินกำลังเครื่องยนต์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

2. ระบบเกียร์ CVT

CVT คือ ระบบ เกียร์อัตราทดแปรผันต่อเนื่อง ที่อาศัยการเปลี่ยนอัตราทดแบบต่อเนื่อง ซึ่งข้อดีของเกียร์ประเภทนี้ทำให้เราสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้น ไม่มีปัญหาเรื่องอาการกระตุก รวมไปถึงยังช่วยรักษารอบเครื่องยนต์และช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีมากๆ การทำงานของเกียร์ประเภทนี้จะทำงานโดยการไล่เกียร์ไปเรื่อยๆ ตามรอบอัตราเร่งของตัวรถ และยังสามารถคำนวณความเหมาะสมให้เหมาะกับรอบความเร็วได้ ทำให้เวลาเปลี่ยนเกียร์จึงไม่รู้สึกถึงแรงกระตุกนั่นเอง

ตัวย่อ CVT ย่อมาจาก Continuously Variable Transmission ซึ่งเป็นเกียร์ที่เปลี่ยนแปลงการทำงานตามกำลังที่ส่งมาจากเครื่องยนต์ โดยเกียร์ CVT ก็คือ เกียร์อัตโนมัติประเภทหนึ่ง ที่มีอุปกรณ์ชุดเกียร์ที่แตกต่างกับเกียร์ออโต้แบบคอนเวอร์เตอร์ โดยทั่วไปแล้ว ในขณะขับขี่จะสามารถเปลี่ยนเกียร์ CVT ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความต่อเนื่องโดยไร้รอยต่อ แตกต่างกับระบบส่งกำลังอื่นๆ ที่มีอัตราทดเกียร์คงที่และมีช่วงการเปลี่ยนเกียร์ที่ไม่ลื่นไหลเท่าไรนัก

ลักษณะการเปลี่ยนเกียร์อย่างไร้รอยต่อของ CVT มีจุดเด่นคือ ทำให้ การเร่งความเร็วเป็นไปอย่างราบรื่น และช่วยทำให้ ประหยัดเชื้อเพลิง ได้ดียิ่งขึ้น

เกียร์ AT กับ CVT ต่างกันยังไง

ระบบเกียร์ CVT ทำงานผ่านระบบรอก (Pulley) แตกต่างจากระบบเกียร์ธรรมดาที่มีอุปกรณ์และชิ้นส่วนมากมายเพื่อทำการเปลี่ยนเกียร์ ส่วนเกียร์ออโต้ก็ใช้ระบบไฮดรอลิกตอบสนองต่อแรงดันเพื่อเปลี่ยนเกียร์โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องใช้แรงเอง

ระบบเกียร์ CVT ยังคงใช้เหมือน ระบบเกียร์ออโต้ ดังเดิมที่ไม่ต้องการแรงจากผู้ขับขี่ แต่เรื่องระบบและการทำงานก็แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง โดยใน ชุดเกียร์ออโต้ แบบ CVT จะประกอบไปด้วยพูลเลย์ 2 ตัว ได้แก่ พูลเลย์ขับ (Drive Pulley) ต่อกับเครื่องยนต์ และพูลเลย์ตามหรือพูลเล่ย์กำลัง (Driven Pulley) ต่อกับเพลา มีสายพานที่ยืดหยุ่นเชื่อมต่อระหว่างพูลเลย์สองตัวนี้ โดยพูลเลย์จะทำงานสอดคล้องตามอัตราเร่งและรอบเครื่องยนต์

ความกว้างของพูลเลย์จะเปลี่ยนไปตามกำลังที่รถต้องการ เมื่อพูลเลย์ข้างหนึ่งใหญ่ขึ้น พูลเลย์อีกข้างจะเล็กลง และเนื่องจากพูลเลย์กับสายพานมีความยืดหยุ่นจึงสามารถให้อัตราทดเกียร์ที่ไม่จำกัด ต่างจากเกียร์ออโต้ที่มีเกียร์อย่างจำกัดนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม CVT ก็มีหลายประเภทที่ไม่ได้ใช้ระบบพูลเลย์ในการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น Toroidal CVT ที่ใช้จานหมุนกับลูกกลิ้งในการส่งกำลังให้มีประสิทธิภาพเหมือนกับการใช้พูลเลย์ และ Hydrostatic CVT ที่ใช้ปั๊มในการควบคุมการไหลของของเหลวซึ่งจะทำให้เกิดการเคลื่อนที่แบบหมุน